รถไฟฟ้าสายสีเขียว
‘แบริ่ง-สมุทรปราการ’ นั่งฟรี 4
เดือน ผู้ว่าฯ เคาะราคาไม่เกิน 65
บาท
เมื่อวันที่
27 พ.ย. ที่สถานีสำโรง (E15) จ.สมุทรปราการ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง
ผู้ว่าฯ กทม. พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกทม. กรุงเทพธนาคม และบริษัท
ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) BTSC ตรวจเยี่ยมและตรวจสอบความพร้อมก่อนเปิดทดลองให้บริการเดินรถโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว
ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ซึ่งจะเปิดในวันที่ 6 ธ.ค.นี้ โดยผู้ว่าฯกทม.และคณะผู้บริหาร ได้ขึ้นรถไฟฟ้าจากสถานีสำโรง
ไปถึงสถานที่เคหะสมุทรปราการ ซึ่งเป็นสถานีปลายทาง
จากนั้นขึ้นรถไฟฟ้าต่อเพื่อไปเยี่ยมชมศูนย์ซ่อมบำรุง
พล.ต.อ.อัศวิน
กล่าวว่า ในวันที่ 6 ธ.ค. นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาเป็นประธานเปิดเดินรถ จากนั้นตั้งแต่เวลา 12.00 น. เป็นต้นไป
จะเปิดให้บริการกับประชาชน
โดยให้ประชาชนทดลองใช้ฟรี
4 เดือน ตั้งแต่เวลา 06.00 – 24.00 น.
ทั้งนี้ในส่วนการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย
(รฟม.) ได้เริ่มการก่อสร้างงานโยธาและงานรางตั้งแต่ต้นปี 2555 จนเสร็จเรียบร้อยประมาณต้นปี 2560 จากนั้นกทม.
ได้เริ่มเข้าดำเนินการติดตั้งระบบไฟฟ้าและเครื่องกลเมื่อเดือนต.ค. 2559 และสามารถเปิดเดินรถได้ 1 สถานีที่สถานีสำโรง เมื่อวันที่ 3 เม.ย. ที่ผ่านมา หลังจากนั้น
กทม.ได้ดำเนินการติดตั้งระบบไฟฟ้าและเครื่องกลในส่วนที่เหลือทั้งหมด
รวมทั้งได้ทำการทดสอบอุปกรณ์ต่างๆ และทดสอบการเดินรถเสมือนจริงต่อเนื่อง
เพื่อให้มั่นใจว่าระบบมีความพร้อมและมีความปลอดภัยซึ่งทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ไม่พบข้อบกพร่องแต่อย่างใด
พล.ต.อ.อัศวิน
กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 26 พ.ย. ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรี (ครม.)
ได้มีมติเห็นชอบให้ รฟม.โอนทรัพย์สินและหนี้สินให้กับกทม. โดยในวันที่ 3 ธ.ค.นี้
กทม.ลงนามบันทึกข้อตกลงหรือเอ็มโอยู
เรื่องการจำหน่ายและโอนทรัพย์สินของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว (เหนือ)
ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และ (ใต้) แบริ่ง-สมุทรปราการ ระยะทางรวม 32 กม. งบประมาณ 51,785 ล้านบาท
ส่วนอัตราค่าโดยสาร
ยืนยันว่าจะให้อยู่ในอัตรา 65
บาทตลอดสาย จนกว่าจะสิ้นสุดสัญญาสัมปทาน ในปี 2585 ซึ่งจะเป็นการช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนอีกทางหนึ่งด้วย
นอกจากนี้ยังได้หารือกับเอกชน
ในการติดตั้งราวกันตกและติดตั้งลิฟท์และสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐานให้กับผู้พิการและผู้สูงอายุ
เชื่อว่าเอกชนจะไม่มีการขาดทุนอย่างแน่นอน ทั้งนี้ยืนยันว่าในสมัยผู้ว่าฯอัศวิน
จะไม่มีการออกงบประมาณอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามคาดว่าจะมีประชาชนใช้บริการ
ไม่น้อยกว่า 60,000 คน
ซึ่งจะช่วยลดความแอดอัดการจราจรบนถนนสุขุมวิทสายเก่าต่อเนื่องถนนสุขุมวิทได้เป็นอย่างมาก
สำหรับโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ
เป็นโครงการรถไฟฟ้าแบบยกระดับตลอดเส้นทาง ระยะทาง 13 กม. จำนวน 9 สถานี เป็นระบบรถไฟฟ้าขนาดใหญ่
แนวเส้นทางเริ่มต้นต่อเนื่องจากแนวเส้นทางของโครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร
บีทีเอส ส่วนต่อขยายสายสุขุมวิทตอนที่ 1 ช่วงอ่อนนุช-แบริ่งบริเวณซอยสุขุมวิท 107 ไปตามแนวเกาะกลางถนนสุขุมวิท
ผ่านคลองสำโรง ผ่านแยกเทพารักษ์ แยกปู่เจ้าสมิงพราย เมื่อถึงบริเวณจุดตัดกับโครงการถนนวงแหวนรอบนอกด้านใต้
แนวจะเปลี่ยนจากเกาะกลางไปทางทิศตะวันตกของถนนสุขุมวิท
เพื่อข้ามทางต่างระดับสุขุมวิท
จากนั้นจึงเปลี่ยนกลับมาอยู่ในแนวเกาะกลางถนนสุขุมวิท ผ่านแยกศาลากลาง แยกการไฟฟ้า
แยกแพรกษา แยกสายลวดจนถึงจุดสิ้นสุดโครงการบริเวณหน้าสถานีไฟฟ้าย่อยบางปิ้ง
โดยแนวเส้นทางจะเบี่ยงออกทางด้านทิศตะวันตกและลดระดับเพื่อเข้าศูนย์ซ่อมบำรุง
ส่วนศูนย์ซ่อมบำรุงของโครงการมีพื้นที่ประมาณ
123 ไร่ ในพื้นที่ประกอบด้วย
อาคารบริหารและศูนย์ควบคุมการปฏิบัติการเดินรถ อาคารซ่อมบำรุงหลัก อาคารจอดรถไฟฟ้า
รางทดสอบ และอาคารประกอบอื่นๆ นอกจากนี้ รฟม. ได้จัดให้มีอาคารจอดรถแล้วจร 1 แห่ง
ตั้งอยู่บริเวณสถานีเคหะสมุทรปราการ ซึ่งเป็นสถานีปลายทางเนื้อที่ประมาณ 8 ไร่ สามารถจอดรถรวมกันได้ประมาณ 1,200 คัน
สามารถดาวน์โหลด แอพ Thisshop ได้แล้ววันนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น